บริเวณนี้มีลักษณะเป็นหินที่โผล่พ้นผิวหน้า ถ้าเวลาดำใต้น้ำแล้ว สังเกตหินจะเหมือนกับครีบของฉลาม โดยส่วนใหญ่จะเป็นสวนหินที่มีหินขนาดใหญ ่ตั้งอยู่ใต้น้ำเหมือนสันเขื่อน และมีหินขนาดเล็กตั้งอยู่ด้านบนเล่นระดับความลึกแตกต่างกัน ซึ่งจะมีความลึกตั้งแต่ 20-30 เมตร ยังสามารถพบกัลปังหาขนาดใหญ่ และปะการังแข็งตามโขดหิน
พื้นที่อาจจะยังไม่ได้รับความเสียหายมากนัก แต่มีบางส่วนที่มีปะการังหักหรือโดนทำลาย ซึ่งดูจากสภาพแล้วไม่น่าจะเกิดจากคลื่นยักษ์ครั้งนี้ อาจจะเกิดการเสียหายมานานแล้ว บริเวณนี้สามารถพบปลาหลากหลายชนิดมากมาย
สภาพโดยรวมของธรรมชาติใต้น้ำไม่น่าจะประสบปัญหาอะไรมากนัก คงจะมีเพียงกลุ่มปะการังที่เกิดหักล้มจากกระแสคลื่นใต้น้ำจนทำให้พังลงมา กัลปังหาขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเหมือนใบพัดบางครั้งอาจจะต้านแรงคลื่นไม่ได้จะหักล้มได้เช่นกัน สิ่งเหล่านี้สามารถที่จะฟื้นฟูกลับมาคืนสู่ธรรมชาติได้เช่นกัน
แต่ที่สำคัญ ณ ตอนนี้ บรรยากาศโดยรวมของการท่องเที่ยวดูช่างเงียบเหงา มีเพียงเรือไม่กี่ลำเท่านั้นที่ออกทะเลเพื่อมาท่องเที่ยวกัน ซึ่งแท้จริงแล้วธรรมชาติตอนนี้ถ้าเปรียบกับเมื่อก่อนอาจพูดได้ว่าไม่ได้แตกต่าง กันแต่อาจจะสวยและดีกว่าด้วยซ้ำ เพียงแต่ความเสียหายที่เห็นชัดเจนจะเป็นบนเกาะต่าง ๆ ที่น้ำทะเลซัดขึ้นชายหาดทำให้ต้นไม้หักล้มตายลง แหล่งน้ำจืดโดนน้ำทะเลเข้าแทนที่ สิ่งเหล่านี้น่าจะถูกฟื้นฟูขึ้นในไม่ช้า
ถ้าพวกเราไม่ช่วยกันธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ก็คงไม่กลับคืนดังเดิม.. |