กว่าจะเป็น นพอ. ThaiDive.Org  

 

 

กว่าจะเป็น : พะยูน 06

 

 

วันที่ 1

พฤหัส 19-04-44

วันนี้ตื่นนอนตอนหกโมง จิ้นมายืมกีต้าร์เมื่อคืนเลยให้มาส่งที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ถึงตอน 7 โมง เพื่อไปอบรมโครงการดำน้ำเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใต้ทะเล รถไปถึงฐานทัพเรือสัตหีบ ตอน 11 โมงกว่า แล้วนั่งเรือข้ามไปเกาะพระกินอาหารเที่ยงที่นั่น ได้รับแจกชุดฝึก จากนั้นมีพิธีเปิด ประมาณบ่าย 3 โมงกว่านั่งเรือข้ามฟากเพื่อไปวิ่งขึ้นเขาสักการะเสด็จเตี่ย โดยวิ่งประมาณ 1 กิโล เป็นทางขึ้นเขา รู้สึกเหนื่อยมาก เมื่อไหว้เสร็จครูฝึกก็ให้วิดพื้น 30 ครั้ง เล่นกล้ามท้อง แล้ววิ่งลงเขา ต่อมาก็นั่งรถกลับไปข้ามเรือกลับไปที่เกาะพระ ได้อาบน้ำ กินข้าว แล้วรับฟังการบรรยายเรือระเบียบวินัย วิธีปฏิบัติ ตารางการฝึก

นอกจากนี้ก็ยังมีการเลือกประธานและคณะกรรมการรุ่นด้วย รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 6 ประธานเป็น 01 นาวาเอกกฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ (พี่เล็ก) ช่วงเย็นเริ่มปฏิบัติตามระเบียบของทหารเรือมากขึ้น เช่นเรื่องกิน ตอนอยู่นอกอาคารต้องวิ่งห้ามเดิน และจะร้องว่า “ฮูย่า” บ่อยมาก ตั้งแต่จัดแถว เลิกแถว ทักทายคล้ายคำว่า “สวัสดี” หรือ ครับ ตอนใกล้สามทุ่มครึ่ง ได้รับแจกผ้าปูเตียง ผ้าห่ม ปูยังไม่ค่อยเป็น มีคนมาช่วยปู ต้องขอบคุณไว้ด้วย ตอนสามทุ่มครึ่งเข้าแถวสวดมนต์ และเตรียมนอน แต่นอนไม่หลับและร้อนด้วย แถมมียุงอีก จึงลุกมาเขียนบันทึกกันลืม

 

วันที่ 2

ศุกร์ 20-4-44

เมื่อคืนนอนไม่หลับเลย ทั้งร้อนมากและยุงเยอะมาก ไม่มีมุ้งกาง รอว่าเมื่อไหร่จะถึงตีห้าครึ่งจะได้ตื่นซะที ตอนตีห้าห้าสิบ ออกไปวิ่ง 15 นาที แล้วกลับมาอาบน้ำ อ้อ ต้องแบ่งเวรก่อน เราได้ไปทำความสะอาดห้องเรียนกับเพื่อนๆ รวม 6 คน คนอื่นๆ ก็ทำที่ต่างๆ อาบน้ำเสร็จมากินข้าว แต่ทุกครั้งก่อนกินข้าวต้องดึงข้อก่อน ช่วงนี้ดึงครั้งละ 5 ที รวมกินข้าว 3 มื้อ ดึงข้อไป วันละ 15 ที ทุกมื้ออาหารอร่อยมากเพราะหิว กับข้าวมีมื้อละ 2 อย่าง ขนมต่างหาก กินระเบียบแบบทหารเลย มาอบรมคราวนี้ โชคดี ที่กำลังมีอบรมนักดำน้ำจู่โจม พอดี วันจันทร์หน้าเริ่มฝึกสัปดาห์นรกด้วย คงได้ดูบ้าง หลังกินข้าวเข้าก็เข้าห้องเรียน รับแจก fin, mask และเรียนเรื่องฟิสิกส์การดำน้ำ

หลังมื้อเที่ยง นั่งเรือข้ามฟากและขึ้นรถไปฝึกการใช้ fin สระน้ำ นสร. ที่แสมสาร ก่อนฝึก ครูฝึกให้วิ่งรอบสนามฟุตบอล 3 รอบก่อน และทำการยืดกล้ามเนื้อ ระหว่างวิ่งมีผู้หญิงเป็นลม 1 คน ฝึกตีขา โดยใช้ fin และทำการ clear mask กรณีน้ำเข้า ถึง 4 โมง กลับเกาะพระ อาบน้ำ กินข้าว ตอนทุ่มนึง เริ่มเรียนต่อเรื่องเดิมถึงสามทุ่ม จากนั้นเข้าแถวสวดมนต์   เห็นหน่วยฝึกนักดำน้ำจู่โจมตั้งแถวกลับบ้านเพื่อเตรียมเข้าสัปดาห์นรกด้วย

วันนี้โชคดี ได้รับแจกมุ้งและมีพัดลมเพิ่มอยู่ตรงแถวๆ เตียงนอนเลย เรานอนข้างล่าง รู้สึกแตกต่างจากเมื่อวานมากที่ไม่มียุงและไม่ร้อนแล้ว คงหลับสบาย อ้อ! ตอนฝึกที่สระน้ำเป็นตะคริวในน้ำด้วยแต่ไม่มาก พยายามฝืนโดยค่อย ๆ ว่ายต่อไป ก็สามารถทำได้ ไม่รู้ว่าวิ่งพรุ่งนี้ตอนเช้ากับฝึกว่ายน้ำอีกจะเป็นอย่างไรบ้าง โชคดีพี่ติ๊ก มียานวดกล้ามเนื้อมา จึงเอามานวดก่อนนอนและเขียนบันทึกนี้                                                                                                                        22.30 .

 

วันที่ 3

เสาร์ 21-04-44

นอนหลับดี ตื่นตอนตีห้าครึ่ง บริหารร่างกาย ออกวิ่ง 15 นาที กินข้าวตอน 7 โมง ดึงข้อก่อน 5 ที เหมือนทุกมื้อ 8 โมง เข้าแถวเคารพธงชาติ จากนั้นเข้าห้องเรียนๆ เรื่อง การปฐมพยาบาลและอันตรายจากการดำน้ำ ตอนบ่ายหลังกินข้าม ข้ามฟากจากเกาะพระไปสระน้ำเหมือนเมื่อวาน ฝึกว่ายน้ำใช้ fin ในท่า side stoke คือว่ายด้านข้าง ก่อนว่ายทำการฝึก clear mask โดยวาง maskใต้สระแล้วดำไป clear ใต้น้ำ ทำ 2 ครั้ง สำลักน้ำทั้ง 2 ครั้ง ยังทำได้ไม่ดี และตอนว่ายก็รู้สึกเหนื่อยมาก เริ่มกังวลว่าถ้าดำจริงแล้ว clear ไม่ได้ สำลักน้ำใต้น้ำจะทำอย่างไร เลยท้อนิดหน่อย วันนี้ว่ายในท่า side stoke และลองดำน้ำระยะกว้างของสระ ปรากฏว่าดำถึง อ้อ! เมื่อเช้าตอนเรียนช่วงฝึกให้ครูหน่วยพยาบาลตรวจหูให้ สภาพหูไม่เป็นอะไร หลังฝึกว่ายน้ำกลับเกาะพระ ได้ทำเรื่องเบิกไข่กับนมไปโรงครัว กับนักเรียนร่วมกันอีก 2 คน คือ ไข่วันละ 2 ฟอง เช้าเย็น นม 1 กล่อง เช้าสำหรับนักเรียน 1 คน มีนักเรียนทั้งหมด 57 คน เรารับหน้าที่เรื่องนี้ทุกวัน

หลังกินข้าวเข้าห้องเรียนๆ ตั้งแต่ 18.30–21.00 แล้วครูปกครองซึ่งวันนี้คือครูชุมพล มาเล่าประสบการณ์ต่างๆ ให้ฟัง สนุกมาก พูดตลกดี หัวเราะกันทั้งชั้น ปกติต้องตั้งแถวสวดมนต์นอน ก่อนสามทุ่มครึ่งแต่วันนี้ครูพูดให้ฟังเกินสามทุ่มครึ่งอีก หลังจากนั้นคืนนี้ได้เข้าเวรตรวจหน้าอาคาร โชคดีได้กะแรก คือ สามทุ่มครึ่งถึง ห้าทุ่มครึ่ง ตอนเข้าเวรนั่งคุยกับทหารเวรและพวกหน่วยเตรียมพร้อมของ นสร. ซึ่งผ่านการฝึกนักทำลายใต้น้ำมาแล้ว ที่บริเวณท่าเรือ คุยเรื่องต่างๆ สนุกดี คุยจนถึง ห้าทุ่มครึ่ง จึงกลับเข้ามานอน

พรุ่งนี้ นักเรียนทำลายใต้น้ำจะเริ่มเข้าสัปดาห์นรก 5 วัน 120 ชั่วโมง ฝึกติดต่อกันไม่มีการนอน  ครูได้เตือนว่า ถ้าได้ยินเสียงระเบิด เสียงปืนไม่ต้องตกใจ ให้นอนตามปกติ

วันที่ 4

อาทิตย์ 22-04-44

ตื่นนอนตีห้าครึ่ง วิ่ง 15 นาที ยืดเส้นเหมือนทุกวัน จับชีพจรขณะตื่นนอนได้ 80 ครั้ง/นาที วิ่งแล้ว 15 นาที ได้ 160 ครั้งต่อนาที สูตรชีพจรเต้น Maximum Performance 220-50-อายุ ซึ่งของเราคือ 142 ครั้ง/นาที จากนั้นกินข้าว เข้าห้องเรียนเรื่องการใช้ตารางดำน้ำและการคำนวณเวลาการดำน้ำ เวลาการลดความกดต่างๆ หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จก็ข้ามเรือไปฝึกว่ายน้ำที่สระ วันนี้ก่อนว่ายน้ำ ครูให้วิ่งหนักกว่าเดิม คือวิ่งตามชายทะเลที่เป็นพื้นทราย ทำให้วิ่งลำบากหนักกว่าเดิม คือวิ่งตามชายทะเลที่เป็นพื้นทราย ทำให้วิ่งลำบากและระยะทางไกลกว่าทุกวัน ผู้หญิงวิ่งไม่ค่อยไหว วันนี้ได้วิ่งอยู่แถวหน้าสุด จึงวิ่งไปเรื่อยๆ ไว ตอนฝึกว่ายนำ ฝึกท่า side stoke และระหว่างพัก ลอง clear mask ปรากฏว่าทำได้ค่อนข้างดี รู้สึกมั่นใจขึ้นและไม่ท้อแล้ว จากนั้นครูให้ฝึกวิธีการช่วยคนจมน้ำในท่าต่างๆ ซึ่งได้สาธิตให้ดูเมื่อวานแล้ว ได้จับคู่กับพี่ที่เป็นตำรวจ ตัวใหญ่ ท่าง่ายๆ พอได้ ส่วนท่าให้นอนหงายเกาะไหล่ แล้วว่ายท่ากบเคลื่อนไปข้างหน้าทำไม่ไหว

เมื่อฝึกเสร็จกลับเกาะพระ อาบน้ำ กินข้าว หลังกินข้าไปสโมสร ซื้อไวตามิลค์ กับไอศกรีมกิน เพิ่มพลัง และไปกับเพื่อนักเรียน (ชัย) เบิกไข่-นม แล้วเข้าเรียน 19.00-21.00 เรื่องการวางแผนการดำน้ำ วันนี้ทั้งวันได้ความรู้ดี หลังจากนั้นสวดมนต์ เข้านอน เจอนักเรียนจู่โจมใต้น้ำกำลังเตรียมพร้อมรับฝึกสัปดาห์นรกคืนนี้ ห้องนอนของนักเรียนอนุรักษ์กับนักเรียนจู่โจมใต้น้ำอยู่ติดกัน ครูฝึกบอกว่าตอนห้าทุ่ม พวกนักเรียนก็วิ่งขึ้นปห้องเรียนชั้น 2 เตรียมดูในตึกห้ามเปิดไฟ เริ่มมีเสียงระเบิด เสียงปืนตอนห้าทุ่มครึ่ง ตอนนั้นพวกเราอยู่ในห้องเรียนชั้นสองแล้ว ห้องนอนของมนุษย์กบ อยู่ติดกับห้องนอนนักเรียนดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์

พวกมนุษย์กบ ถูกครูฝึกไล่ ให้มาจัดแถวข้างห้องโรงอาหาร เสียงปืนเสียงระเบิดดังดี คนที่อยู่ในห้องนอน ต้องออกมาดู เพราะมีควันเต็มห้องไปหมดเนื่องจาก ห้องนอนติดกัน กั้นก็แค่ตู้ใส่ของ ตอนที่ครูฝึกเข้าไปในห้องนอนของมนุษย์กบ ได้เข้าประตูด้านที่เข้าจากภายในตัวอาคารด้วย ซึ่งอยู่ใกล้กับบันไดขึ้นชั้นสอง ตอนนั้นกำลังเดินขึ้นชั้นสอง เห็นครูเดินเข้าไปในประตูและมีเสียงระเบิด เสียงปืน เราไม่รู้ว่าเป็นประตูเข้าห้องนอนมนุษย์กบ จึงหยุดดูแป๊ปนึง แล้วไปที่ห้องเรียน ดูจากกระจกด้านหลังห้อง

จากนั้นตอนเที่ยงคืน พวกนร. มนุษย์กบ เคลื่อนมาที่บ่อข้างหน้าที่มีน้ำทะเลและน้ำแข็งอยู่ นร.มนุษย์กบแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ผลัดกันลงบ่อนั้น โดยมีครูฝึกอยู่รอบบ่อ พยายามให้พวกนักเรียนดำลงไป เช่นกดหัว ประมาณ 5 นาที สลับกลุ่มกันลง ถึงช่วงนี้พวกนักเรียนอนุรักษ์ได้รับอนุญาติลงไปดูใกล้ๆ บ่อน้ำ ได้ พวกเราก็ลงไปดูกัน นอกจาก นร.อนุรักษ์ก็มีกลุ่มอื่น เช่น เด็กๆ มาดูด้วยเช่นกัน ตามธรรมเนียมของการเปิดสัปดาห์นรก ก็มีครูฝึกที่แต่งตัวเป็น ยมฑูต และผู้ช่วยยมฑูตอีก 2 คน อยู่ข้างๆ บ่อด้วย และก็เรียกวิธีลงน้ำนี้ว่าเป็นวิธีชำระบาป ผู้ช่วยทั้ง 2 คน ก็คอยกดหัว ควักน้ำให้นร. ดำน้ำลงไปด้วย แต่ละกลุ่มน่าจะสลับลงน้ำกลุ่มละ 4 ครั้ง ก็ให้ใส่เสื้อผ้าเข้าแถวไปเข้าพิธีเปิดสัปดาห์นรกอย่างป็นทางการที่สนามหน้าเสาธง โดยประธานคือ ผู้บังคับการ นสร.กร. ตอนตีหนึ่ง 

เมื่อพิธีจบอีก 15 นาทีก็ไปเข้านอน  ยมฑูตบอกกับนร.ทำลายใต้น้ำจู่โจมว่า ห้ามให้พาย หมวก อยู่ห่างตัว และเสื้อชูชีพด้วย ไม่เช่นนั้นถือว่า ลาออก การลาออกสามารถทำโดยสมัครใจ โดยให้ไปเคาะระฆังที่แขวนอยู่แถวทางไปท่าเรือ ซึ่งจะมีผลทันที ข้างๆ ระฆังก็จะมีบริเวณที่วางพายสำหรับ นร.ที่ลาออก การฝึกสัปดาห์นรก ฝึกตลอด 5 วัน 5 คืน รวม 120 ชั่วโมง พักไม่เกิน 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นขีดการทำงานสูงสุดของมนุษย์ที่สามารถทำได้

 

วันที่ 5

จันทร์ 23-4-44

ตื่นตีห้าครึ่ง โดยมีคนปลุก ออกวิ่งเหมือนเดิม ถึง หกโมงครึ่ง อาบน้ำกินข้าว แปดโมงเจ้าแถวเคารพธงชาติ แล้วเข้าห้องเรียนๆเรื่อง การวางแผนการดำน้ำ ต่อจากเมื่อคืน ประมาณ 10 โมงครึ่ง ผบ นสร. ได้เข้ามาพูดคุยกับนักเรียน โดยกล่าวต้อนรับอีกครั้งหนึ่ง

ตอนเข้าขณะจัดแถวก่อนจะวิ่ง เห็น นร.มนุษย์กบถือแพยางเดินวิ่งมาจัดแถวที่บริเวณสนามหน้าที่ดึงข้อ มีนร.คนหนึ่งขอลาออก แต่มีเพื่อนนักเรียนอีกคนพยายามห้ามไว้แต่ห้ามไม่ได้ นร.คนนั้นไปเคาะระฆังและเอาไม้พายวางไว้บริเวณที่ใส่ไม้พายเช้านั้นลาออกไป 1 คน นร.มนุษย์กบ เมื่อคืนมีทั้งหมด 35 คน เหลืออยู่ 34 คน

ต่อมาตอนเกือบ 11 โมง เรียนเรื่องการดำน้ำด้วยเครื่องช่วยหายใจใต้น้ำแบบวงจรเปิด ก็เรียนเรื่องเครื่องมือ วิธีการต่างๆ ซึ่งยังไม่ค่อยเข้าใจ ประมาณบ่ายสามโมงลงไปซ้อมการใช้การประกอบต่างๆ และการใส่ สำหรับผู้หญิงใช้ขวดอากาศ 1 ขวด หนัก 16 กิโล ผู้ชายใช้ขวดอากาศ 2 ขวด (ขวดคู่) หนักประมาณ 35 กิโล ซึ่งต้องแบกไว้ที่หลังก่อนลงน้ำ

ตอนซ้อมปัญหาที่กังวลว่าหนักนั้นไม่เท่าไหร่ แบกไหว แต่เรื่องการประกอบอุปกรณ์ยังทำไม่ดีพอ ต้องลองอีกทีที่สระพรุ่งนี้ ภาคฝึกจริง พอตอนบ่ายสี่ครึ่งถึงหกโมง เรียนเรื่องวิธีการดำรงชีพ ครูสอนสนุกดี ชื่อครูอ้วน ทำให้รู้สึกหิวข้าว แต่ง่วงเพราะเมื่อคืนคงนอนดึก เรียนเสร็จลงไปจัดแถวดึงข้อจะกินข้าว เห็นนร. มนุษย์กบกำลังนั่งกินข้าวหน้าโรงอาหารและเห็นใบพายมี 4 อันวางอยู่ใกล้ระฆังสำหรับเคาะ ข้างหน้าจุดธูปด้วย 4 ดอก แสดงว่านี้มีนร. ออกไปแล้ว 4 คน เหลือ 31 คน กินข้าวเสร็จเรียนการผูกเงื่อนกะและเงื่อนกระตุก ซึ่งเงื่อนหลังเหมือนที่เค้าใช้ผูกคอ ลองทำด้วยเชือกเล็กๆ ก็พอทำได้ เรียนเสร็จเกือบ

สองทุ่มไปเบิกไข่กับทำความสะอาดห้องครูปกครอง แล้วสามทุ่มอาบน้ำ คืนนี้เข้าเวรตอนห้าทุ่มครึ่งถึงตีหนึ่งครึ่ง หน้าห้องครูปกครองชั้น 2 ขณะเข้าเวรเขียนบันทึกนี้ในห้องเรียน

 

วันที่ 6

อังคาร 24-4-44

ตื่นตอนตีห้าครึ่ง วิ่งเพิ่มเป็น 20 นาที และคลายกล้ามเนื้อตอนช่วงเข้า เข้าห้องเรียนเรียนเรื่องสรีระเวชใต้น้ำและโรคใต้น้ำกับหมอของกองทัพเรือ ถึงเที่ยงกินข้าวแล้วช่วยกันขนอุปกรณ์ดำน้ำต่างๆ เช่น ขวดอากาศ,regulator, fin, mask ขึ้นเรือ ไปฝึกดำน้ำที่สระ นสร. ขวดและอุปกรณ์ต่างๆ หนักมาก พวกนร.ช่วยกันเคลื่อนย้าย ส่วนนร.หญิงก็ต้องขนอุปกรณ์ต่างๆ ของตนเองด้วย

 เมื่อข้ามเรือเสร็จก็ช่วยกันยกไปขึ้นรถบรรทุก ตอนนี้การขนเริ่มเร็วขึ้นแล้ว วันนี้เป็นวันแรกที่จะได้ลองดำน้ำจริงในสระหลังจากเรียนทฤษฎีจากเมื่อวาน เราอยู่กลุ่มที่ 2 ชุดที่ 6 บัดดี้หมายเลข 32 กับ 33 ชื่อรุจน์ อยู่ชมรมดำน้ำ ฝึกดำใต้น้ำทั้งหมดประมาณ 45 นาที ทำได้ดีกว่าที่คิดแต่ไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่ ฝึกหายใจ ว่ายไปมา โดยจับคู่ว่ายพร้อมไปกับบัดดี้ ฝึก clear mouthpiece กลับตอนประมาณ 5 โมงเย็นก็ช่วยกันขนอุปกรณ์กลับ คราวนี้คล่องแคล่วขึ้น

วันนี้พระองค์โสมทรงเสด็จมาเที่ยวเกาะพระด้วย ตอนถึงเกาะพระเห็นท่านกำลังว่ายน้ำอยู่มีทหารป้องกันล้อมรอบใต้น้ำด้วย เมื่อเก็บอุปกรณ์เสร็จแล้วก็กินข้าว และฝึกผูกเงื่อน 2 เงื่อนเมื่อวานโดยใช้เชือกขนาดใหญ่ที่จะใช้จริง จัดคู่บัดดี้ช่วยกันผูก พอดีบัดดี้เก่งจึงผูกได้ไม่มีปัญหา ถ้าผูกเองสงสัยจะแย่ ตอนเข้าแถวก่อนกินข้าวเห็น นร. มนุษย์กบกินข้าวอยู่ข้างโรงอาหาร วันนี้ยังเหลือ 31 คนเท่าเมื่อวาน หลังจากนั้นแยกย้ายกันทำหน้าที่เบิกไข่นมไปที่โรงครัว เข้าแถวสวดมนต์ ทำความสะอาดห้องน้ำ เข้านอน

 

วันที่ 7

พุธ 25-4-44

                ตื่นตีห้าครึ่ง เข้าแถวตีห้าสี่สิบห้า เริ่มวิ่ง 20 นาที คลายกล้ามเนื้อเสร็จแล้ว ช่วยกันขนอุปกรณ์ดำน้ำ ขวดอากาศลงเรือ กินข้าวตอนเจ็ดโมงเช้าและข้ามเรือไปฝึกดำน้ำต่อที่สระน้ำ ช่วงเช้านี้ฝึกแก้ไขข้อขัดข้องใต้น้ำต่าง ๆ โดยดำจับเป็นบัดดี้ดำตามความยาวสระ จะมีครูฝึกเป็นด่าน ๆ ใต้น้ำบัดดี้ชื่อรุจน์ เคยดำน้ำมาก่อน จึงได้คำแนะนำจากน้องคนนี้มาก ตอนนี้เรียนวิศวะการผลิตที่พระนครเหนือ ด่านแรกให้ทำการ clear mask, mouthpiece ด่านต่อมา ครูฝึกปิดถังอากาศ ให้หมุนเปิดขวดอากาศใต้น้ำเอง ด่านที่สามเป็นการฝึก buddy breathing คือสมมุติว่าคู่บัดดี้อากาศหมด ต้องแบ่งกันหายใจด้วย mouthpiece อันเดียว แล้วว่ายกลับ

จากนั้นพักกินข้าว แล้วฝึกดำโดยให้ถอดและใส่อุปกรณ์-ขวดอากาศใต้น้ำ โดยตอนแรกดำไปถอดขวดอากาศโดยหมุนขวดอ้อมจากหลังแล้วข้ามหัวมาวางใต้น้ำ ขณะนี้ mouthpiece ยังอยู่ในปากจึงยังหายใจได้ แล้วดำขึ้นเหนือน้ำ จากนั้นดำลงไปหายใจทาง mouthpiece แล้วใส่เหมือนตอนถอด คือ อ้อมข้ามหัวไป เสร็จแล้วขึ้นมาพัก สักพักเป็นการทดสอบโดยดำลงไปแล้วครูฝึกจะคอยทดสอบให้เกิดข้อขัดข้องต่าง ๆ แล้วให้แก้ไขใต้น้ำโดยไม่บอกว่าจะทำอะไร เช่น ดึง mouthpiece ปิดขวดอากาศ ถอด mask ถอด fin ในเวลาเดียวกัน ต้องลำดับขั้นตอนให้ดี โดยที่สำคัญ คือ หาอากาศหายใจก่อน เราผ่านการทดสอบได้ดี แล้วกลับเกาะพระ อาบน้ำกินข้าว เข้าห้องเรียน

วันนี้จะมีการสอบภาคทฤษฎี แต่เลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้ จึงเรียนเรื่อง “การค้นหาใต้น้ำ” ตอนประมาณใกล้สามทุ่ม สวดมนต์แล้วแบ่งเวรกัน เราไปขนไข่-นม กับชัย พี่ติ๊ก คนอื่น ๆ ก็ทำความสะอาดที่ต่าง ๆ ขนน้ำ ขนพัดลมกัน วันนี้เข้าเวรตอนตี 1 ครึ่งถึง 3 ครึ่ง (ทุกครั้งที่เข้าเวรได้คู่กับพี่ต๊ะ หมายเลย 09 ทหารเรือสื่อสาร เรือจักรีนฤเบศร์ตลอด) ขณะอยู่เวร พวกนักเรียนมนุษย์กบกำลังฝึกอยู่ที่สนามฟุตบอล ก็เลยได้ดูด้วย ขณะเขียนนี้กำลังเขียนอยู่ข้าง ๆ นักเรียนมนุษย์กบฝึกอยู่เลย นั่งเขียนที่โต๊ะหินข้างบ่อน้ำที่วันแรกของสัปดาห์นรก นักเรียนมนุษย์กบลงไปดำน้ำที่มีน้ำแข็ง ตอนนี้นักเรียนมนุษย์กบถูกสั่งให้ลงบ่อพอดีเลย ห่างกับที่เราเขียนไม่เกิน 2 เมตร รู้สึกได้ดูการฝึกอย่างใกล้ชิด                                

ตีสามครึ่ง

 

วันที่ 8

พฤหัส 26-4-44

                ตื่นตีห้าครึ่งเหมือนเดิม ทำทุกอย่างเหมือนเช้าเมื่อวาน ถึงสระ นสร.. แสมสาร ประมาณแปดโมงกว่า ช่วงเช้านี้ยังไม่ลงสระ แต่ไปดำน้ำในถังน้ำขนาดใหญ่สูง 40 ฟุต อยู่ภายในอาคารเทียบเท่าตึก 5 ชั้น สร้างเมื่อปี 2541 งบเกือบ 50 ล้านบาท ขาดไปไม่กี่บาท  รู้สึกว่าจะมีที่เดียวในประเทศแถบนี้ ต้องช่วยกันยกขวดอากาศและอุปกรณ์ต่าง ๆ  (ลิฟต์เสีย) ขึ้นถึงชั้น 5 เริ่มแรกแบ่งกลุ่มและดำเป็นบัดดี้เราได้อยู่ชุดที่ 4 คู่บัดดี้ที่ 16 ดำลงไปใต้ฐานลึก 38 ฟุต โดยดำตามแนวเชือกลงไป ต้องทำการ pop คือ clear หูตลอด เมื่อถึงพื้นให้ทดสอบ clear mask, mouthpiece และ buddy breathing ทำเสร็จให้ค่อย ๆ ดำขึ้นตามแนวเชือกในอัตรา 1 ฟุต/2 วินาที (30 ฟุต/นาที) จากนั้นพักและกินข้าวเที่ยงใต้ต้นไม้ ระหว่างนี้มีตัวแทนของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์มาเยี่ยมชมด้วย

ช่วงบ่ายฝึกทำ Free Ascent คือ ดำขึ้นโดยไม่มีอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจใช้ในกรณีอากาศหมดหรือเหตุฉุกเฉินที่ต้องขึ้นเหนือผิวน้ำ จะต้องขึ้นช้า ๆ ไม่งั้นอาจเป็นโรค AGE (Arterial Gas Embolism) คือ อากาศในปอดขยายตัวทำให้ปอดฉีกได้ วิธีการฝึกคือ เข้าไปในลิฟต์ใต้น้ำ (Wet belt) ทีละ 4 คนครูฝึก 1 คน เรียบร้อยแล้วลิฟต์จะค่อย ๆ ลงไปที่ความลึก 5 เมตร ตอนนี้หายใจได้เพราะด้านบนเป็นอากาศ ถังดำมีลักษณะทรงกระบอก มี safety สมบูรณ์แบบ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 เมตร และที่ความลึก 2 ที่ในถังก็จะมีห้อง safety สำหรับหายใจคล้ายลิฟต์ที่อธิบายแล้ว และยังมี กล้องวงจรปิดต่าง ๆ อีก จึงปลอดภัย 100% 

ตอนจะลอยตัวขึ้นมาให้สูดหายใจเต็มที่แล้วมุดลิฟต์ออกมาดำขึ้นช้า ๆ มือขวาชี้ขึ้น เงยหน้าอ้าปากร้อง “อ้า” ให้ลมออกจากปอด เมื่อถึงผิวน้ำตะโกน “32 สบายดี” โดยคำว่าดีให้ลากเสียงยาว ๆ ทำอย่างนี้ 2 รอบ ฝึกความมั่นใจ เสร็จแล้วขนอุปกรณ์ข้ามฟากกลับเกาะพระ

วันนี้ถึงเกาะพระช้าหน่อยเกือบ 1 ทุ่ม กินข้าวก่อนแล้วไปอาบน้ำ ทุ่มครึ่งเข้าห้องเรียนจะสอบภาคทฤษฎี และก็ยังไม่ได้สอบ จึงไปเอาไข่-นมแล้วไปนั่งกินน้ำส้มที่สภาซึ่งคล้าย ๆ ร้านขายของ มีโต๊ะนั่งริมทะเล พอทุ่มสี่สิบห้า เข้าแถวสวดมนต์ ทำความสะอาดชั้นเรียน วันนี้มนุษย์กบยังเหลือ 31 คนเท่าเดิม  ถามครูฝึกบอกว่าวันนี้มีนักเรียนจะตีระฆังลาออก แต่ถูกครูฝึกถีบกลับไปแถวเหมือนเดิม เหลือคืนสุดท้ายพรุ่งนี้ประมาณเที่ยงคืนก็ครบสัปดาห์นรกแล้ว เข้าไปดูในห้องน้ำเล็ก ๆ ที่พวกนักเรียนมนุษย์กบเก็บของเสื้อผ้า เห็นยาที่เป็นกลูโคสในกล่อง คงจะโด๊ปกันแล้วไปฝึกต่อ                             

22.00 .

วันที่ 9

ศุกร์ 27-4-44

                ตื่นตีห้าครึ่ง วิ่ง 20 นาที บริหารร่างกายยืดเส้นแล้วช่วยกันขนอุปกรณ์
ต่าง ๆ ไปไว้ด้านข้างของหน้าสนามปูนด้านหน้า วันนี้จะทำการดำในทะเลเป็นครั้งแรก ดำทั้งหมด 3 Dive  Dive แรกช่วงเช้าดำเป็นสี่เหลี่ยมระยะทางรวมประมาณ 600 เมตร โดยไต่ตามเชือกไปเรียกว่าดำแบบ Jack Stay ความลึกสูงสุด 10 กว่าฟุต (น้ำลง) และทำการ clear mask, mouthpiece ที่จุดต่าง ๆ โดยมีครูฝึกอยู่ใต้น้ำ และฝึกทำ buddy breathing ด้วย

ครั้งนี้ได้คู่กับหมายเลข 30 ชื่อดอย เคยดำมาก่อน อุปกรณ์ที่ต้องติดไป 1 บัดดี้ต้องมีมีด gauge บอกความลึก และบุย (buoy) คือ ทุ่นที่ให้นักดำน้ำถือ เพื่อให้ครูฝึกที่อยู่ผิวน้ำทราบว่าดำอยู่ ณ จุดใด ก็ผ่านด้วยดี ช่วยบ่ายดำ Dive ที่สอง ไปดำเลยจากที่เดิม 2 ไมล์ทะเล โดยนั่งเรือ Sea Fox ออกไปแล้วเมื่อถึงก็ลงเรือยาง ดำชุดละ 6 คน ชาย 4 หญิง 2 ตอนดำลงน้ำยังไม่สามารถลอยคอได้ รู้สึกเหนื่อยมากจะต้องคอยดำใช้ mouthpiece หายใจตลอดเวลา รู้สึกมีปัญหา

ครูฝึกบอกว่าต้องตีขาและใช้มือกระเพื่อมน้ำช่วย ตอนดำเป็นกลุ่มมั่วมาก มองไม่ค่อยเห็นปะการัง แต่มีหอยเม่นเยอะเหมือนกัน โดนไปที่แข้งขวา 2-3 จุด ไม่ปวดมาก สบายดี ดำนี่เห็นแต่ fin เราพยายามดำเกาะกลุ่มกันไป มีครูฝึกดำไปด้วย ไม่รู้อะไรเป็นอะไร เดี๋ยวชนคนโน้นคนนี้ สุดท้ายก็ขึ้นเรือแพยาง ขึ้นเรืออีกทีอย่างปลอดภัย เสร็จแล้วกลับไปกินข้าวแล้วเตรียมดำ Dive ที่สามเรียกว่า night dive คือ ดำตอนกลางคืน ณ ที่ช่วงเช้าดำ แต่ไม่มีการ clear อุปกรณ์ คราวนี้ได้คู่บัดดี้เดิม คือ รุจน์ หมายเลข 33 รู้สึกมั่นใจมาก เพราะเค้าเก่ง ตื่นเต้นเหมือนกัน

พอลงน้ำมีเชือก buddy line ผูกมือกัน เราถือบุย รุจน์คอยดูและจับตามเชือกนำ และตอนดำต้องจับมือกันตลอดเวลา เพราะข้างล่างมืดมองไม่ค่อยเห็น แต่ใต้น้ำมีสารฟอสฟอรัส เมื่อสะบัดมือ ก็จะเรืองแสงขึ้นมาระยิบระยับ คนอื่นบอกสวยดี แต่เราคอยแต่ดูข้างหน้านึกว่าเมื่อไหร่จะถึงซักที ใช้เวลาดำคิดว่าชั่วโมงกว่า สุดท้ายก็ทำได้ ขึ้นเรือยางมาฝั่งตรงท่าเรือ กว่าจะเสร็จก็ห้าทุ่มสิบ อาบน้ำ มีเลี้ยงข้าวต้มรอบดึก นอนตอนเกือบตีหนึ่ง

คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่ นร.นักทำลายใต้น้ำจู่โจมฝึกสัปดาห์นรก ปรากฏว่าจาก 35 คนออก 4 คนในช่วงวันแรก ๆ เหลือทั้งหมด 31 คน มีจัดงานเลี้ยงให้นร.มนุษย์กบที่สภาฯ ก็ขอแสดงความยินดีด้วย แต่ยังมีการฝึกภาคป่าและภาคทะเลอีกที่หนักเหมือนกัน สัปดาห์นรกเป็นแค่การทดสอบด้านจิตใจ

 

วันที่ 10

เสาร์ 28-4-44

                วันนี้ตอนเช้าไม่ต้องออกกำลังกายนอนได้ถึง 6 โมง จากนั้นช่วยกันขนอุปกรณ์ต่าง ๆ เตรียมลงเรือไปดำน้ำเพื่อฝึกผูกทุ่นกับหินใต้น้ำที่ความลึก 30 ฟุต แถวเกาะขาม ซึ่งห่างจากเกาะพระประมาณ 10 กิโลเมตร เมื่อกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว ในช่วงเช้าทำการสอบภาคทฤษฎีในเวลา 8.25 ถึง 10.10 ที่ห้องอาหาร ข้อสอบเป็นแบบปรนัย 100 ข้อ เมื่อทำเสร็จฟังครูฝึก brief เรื่องดำน้ำในช่วงบ่าย เราอยู่ชุดที่ 5 บัดดี้คู่แรกกับดอยหมายเลข 30  

พวกเราไปที่เกาะขาม โดยขึ้นเรือ “ราวี” แล้วเมื่อถึง ชุดดำนั่งเรือยางไปยังจุดดำน้ำอีกที ใช้เวลาจากเกาะพระไปยังจุดหมายประมาณ 1 ชั่วโมง การดำช่วงแรกให้ดำลงไปตามเส้นเชือกที่ผูกอยู่กับทุ่นแล้วทำการ clear mask, mouthpiece ดำไปจุดที่สองห่างออกไป 20 เมตร โดยไม่สวม mask แล้วให้ใส่ mask และ buddy breathing ที่จุดสองไปยังจุดที่สามที่ห่างออกไปอีก 20 เมตร แล้วดำขึ้นเพื่อไปเอาเชือกลงมาผูกกับหินใต้น้ำ

เมื่อเสร็จสิ้นแล้วดำขึ้นอีกครั้งเพื่อมาเกาะแพยางรอกลับเรือใหญ่ ขณะเกาะเรือยางก็ดำดูปะการังใต้น้ำ และฝึกตีขาลอยตัวในทะเล ซึ่งก็พอทำได้ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วเดินทางกลับเกาะพระ วันนี้มีนักดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์รุ่น 1-5 มาด้วย มีการรับน้องโดยแบ่งเป็นกลุ่มแยกตามสี เราอยู่สีแดงและเข้าฐานต่าง ๆ 5 ฐาน สนุกดี มีฐานแต่งตัวเป็นนักดำน้ำในแพยาง ฐานทายคำใบ้ ฐานปิดตาหาของ ฐานเรือผ้าใบ และฐานเติมน้ำในถังรั่ว เมื่ออาบน้ำเสร็จตอนประมาณ 1 ทุ่มมีงานเลี้ยงรวมรุ่นทุกรุ่นกันบริเวณสนามฟุตบอล สนุกดี ของกินเยอะด้วย

ก่อนกลับเข้าแถวมีการเต้นกันด้วย แต่ตอนเข้าแถวนั้นเช็คจำนวนคนแล้วขาดผู้หญิง 1 คน ครูฝึกจึงให้อยู่ในท่าเตรียมวิดพื้นรอจนกว่าจะมาเข้าแถวกันครบ รออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้สวดมนต์เข้านอน ได้อยู่เวรตอนตีสามครึ่งถึงตีห้าครึ่ง ส่วนพวกนร.ทำลายใต้น้ำจู่โจม พอกินข้าวเช้าแล้วอนุญาตกลับบ้านได้.. 

ตีสี่ครึ่ง

 

วันที่ 11

อาทิตย์ 29-4-44

                เข้าเวรถึงตีห้าครึ่ง ออกมาวิ่ง 20 นาที แล้วช่วยกันขนอุปกรณ์ดำน้ำไปที่ท่าเรือ จากนั้นกินข้าว เมื่อเสร็จแล้วขนอุปกรณ์ต่าง ๆ ลงเรือ แล้วฟัง brief วันนี้ไปดำแถวเกาะยอ ความลึก 60 ฟุต เมื่อขึ้นเรือนั่งไปประมาณชั่วโมงนึงก็เริ่มลงดำกัน เราอยู่กลุ่มที่  7 ซึ่งเป็นกลุ่มสุดท้ายมีทั้งหมด 7 คน ได้อยู่เลขที่แรกของกลุ่ม จึงได้ผูกเชือกช่วยชีวิตที่ตัวด้วย

การดำก็เรียงกันลงไปโดยมีครูฝึก 1 คนลงด้วย เราลงคนแรกแล้วค่อย ๆ ตามกันลงมา เมื่อถึงระยะ 60 ฟุตซึ่ง Depth Gauge วัดได้ 20 เมตร ทำเหมือนเดิมคือ clear mask, mouth piece และ buddy breathing คราวนี้บัดดี้คือรุจน์ เสร็จแล้วดำขึ้นค่อย ๆ ขึ้น และซ้อมทำการลดความกดที่ 6 ฟุต 3 นาที และ 3 ฟุต 2 นาที ในขั้นตอนต่าง ๆ ต้องมีการใช้สัญญาณเชือก โดยการดึงและกระตุกเชือกช่วยชีวิต เพื่อเป็นการติดต่อระหว่างนักดำน้ำกับภาคพื้นน้ำ การดำขึ้นดำลงทำโดยไต่เชือกนำลงไป เราขึ้นจากน้ำประมาณบ่ายสองโมงครึ่ง ใช้เวลาดำ 15-20 นาที กินข้าวบนเรือ “ราวี” ขณะแล่นกลับเกาะพระ

เมื่อถึงแล้วขนอุปกรณ์ขึ้น จากนั้นฝึกการลอยตัวและการช่วยชีวิตคนตกน้ำ โดยแต่ละคนสวม mask กับ fin โดดลงน้ำแถวท่าเรือ มีครูประยงค์กับครูสุขสรรค์ (Happy) เป็นครูฝึก ฝึกประมาณชั่วโมงกว่าก็ว่ายไปที่สภา หัวหน้า 01 พี่เล็กเลี้ยงน้ำขวดคนละขวดแล้วไปอาบน้ำกินข้าว เสร็จประมาณหกโมงครึ่งก็รวมกลุ่มไปที่ชั้นเรียน หัวหน้าแจ้งคะแนนที่สอบภาคทฤษฎีไปเมื่อวาน เกณฑ์ผ่าน 60 จาก 100 เราได้ 74 ผ่าน พวกที่ไม่ผ่านให้ไปสอบซ่อมที่โรงอาหาร ที่เหลือประชุมเรื่องการจัดงานเลี้ยงให้ครูฝึกและเลี้ยงรุ่น 06 ในเย็นวันอังคารที่จะถึงนี้ เสร็จประมาณสามทุ่มครึ่งแล้วไปเข้าแถวสวดมนต์นอน ช่วงเย็นตอนอาบน้ำเจอพวกนร.มนุษย์กบกลับมาแล้ว บางคนเห็นพันผ้าพันแผลตามร่างกายมา

 

วันที่ 12

จันทร์ 30-4-44

                เมื่อคืนนอนหลับสนิท ตื่นตีห้าครึ่งแล้วไปวิ่งกันทำกายบริหารยืดกล้ามเนื้อ ตั้งแต่เมือคืนมีฝนตก ช่วงยังไม่มีฝน แต่ตอนเข้าแถวดึงข้อกินข้าวเช้า ฝนเริ่มตกแบบพรำ ๆ ก่อนกินข้าวนั้น ช่วยกันขนอุปกรณ์ต่าง ๆ ลงเรือ วันนี้ขนเยอะหน่อย เพราะจะดำลึก 90 ฟุต และเป็น Dive สุดท้ายใน
การอบรมครั้งนี้ เมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว เข้าห้องฟัง brief ก่อนดำ เสร็จแล้วลงไปชนของขึ้นเรือรบหลวง “ราวี”  ลำเดียวกับทุกครั้งที่ดำน้ำนอกเกาะพระ

เรือออกตอน 10.30  ไปแถวบริเวณเกาะจวง ห่างจากเกาะพระไป 10 ไมล์ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมง ตอนไปฝนตกพรำ ๆ ตลอด แต่คลื่นไม่แรงเท่าเมื่อวาน เรียกว่าสงบก็ได้ พอตอนใกล้เที่ยงก็กินข้าวกล่องกันในเรือ และเมื่อถึงจุดหมาย ก็ให้เริ่มแต่งชุดเตรียมดำน้ำเป็นชุด ๆ ไป เราอยู่ชุดที่ 8 เป็นชุดรองสุดท้ายมีทั้งหมด 6 คนหมายเลข 30 (ดอยคู่ buddy) 32, 33-34, 35-36  และครูฝึกคือ ครูสากล ชุดสุดท้ายเป็นพวกที่ป่วยมีปัญหาเรื่องปรับแรงดัน จึงต้องให้พยาบาลซึ่งเป็นครูสมพรลงดำด้วย

บริเวณที่ดำคือซากเรือ “สุธาทิพย์” เป็นเรือขนส่งสินค้าจมสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกเครื่องบินทิ้งระเบิด เริ่มดำเวลา 14.21 . ขึ้นสู่ผิวน้ำ 14.48 เวลาทำการใต้น้ำ 27 นาทีลึกสุด 26m (ประมาณ 80-90 ฟุต

ตอนดำลงดำเป็นคู่บัดดี้มีเชือก buddy line ผูกบริเวณข้อมือคู่กับบัดดี้และไต่เชือกนำลงไป นำการ clear (pop) หูตลอดระหว่างลง ไม่มีปัญหาเรื่องปรับความดันพอไปถึงเห็นปลาตัวใหญ่สวยดี เหมือนปลาเทวดา และเห็นซากเรือด้วย มีพวกปลาต่าง ๆ ปะการังเกาะเต็มไปหมด และที่ปลายเชือกนำ มีป้ายเขียนแสดงความยินดีกับนักดำน้ำด้วยลงท้ายข้อความว่า Hooya 3 ครั้ง ครูฝึกชี้ให้ดูแล้วเข้ามาจับมือด้วยกันทุกคน จากนั้นไต่เชือกนำตามตั้งเรือ เพื่อดูเรือรอบ ๆ ขณะจะดำนั้นมีกล้องวีดีโอถ่ายด้วย จึงอยู่เล่นกันกล้องซักพัก แล้วค่อยดำขึ้น โชคดีที่กระแสน้ำ

ขณะดำอยู่น้ำค่อนข้างนิ่ง และไม่มีฝนตก คลื่นไม่มีด้วย จึงดำสบาย รู้สึกสนุกมาก อยากอยู่นาน ๆ เพราะเป็น Dive สุดท้าย ไม่รู้ว่าจะได้ดำอีกเมื่อไหร่ ตอนที่เรือไปถึงจุดหมายใหม่ ๆ ครูชี้ให้ดูเต่าทะเลที่ว่ายอยู่บนผิวน้ำ ครูบอกว่าเป็นลางดีที่สัตว์ใต้ทะเลขึ้นมา เหมือนมาทักทายต้อนรับ แต่เราออกไปดูไม่ทัน ขณะนั่งเรือกลับก็นั่งคุยกันบริเวณส่วนหน้าของเรือ เห็นวิวต่าง ๆ สวยดี

เมื่อถึงเกาะพระแล้วช่วยกันขนอุปกรณ์เก็บ และตอนห้าโมงเย็นเข้าแถวไปท้ายเกาะพระเพื่อฝึกการดำรงชีพในทะเล ครูอ้วนให้หาของอะไรก็ได้ที่กินได้ในเวลา 1 ชั่วโมง ก็ช่วยกันหาส่วนมากจะเป็นหอย แต่บางคนจับปูได้จับปลิงได้ พอตอนจะทำกินครูก็ได้เตรียมพวกปลากับปลาหมึกให้ย่างอยู่แล้ว โดยย่างบนตะแกรงขนาดใหญ่ พวกเราจึงช่วยกันเอาของที่จับได้กับที่เตรียมไว้มาย่างกันกิน และแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ กินกัน มีน้ำจิ้มให้ด้วย

ช่วงนี้รู้สึกสนุกมาก เป็นกันเองดี เหมือนไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ แล้วทำอาหารกินกันเอง พอตอนประมาณ 2 ทุ่มครึ่งก็กลับที่พัก ตอนแรกนึกว่าจะไม่มีข้าวให้กิน แต่เค้าก็เตรียมให้ด้วย โดยกินร่วมกันกับนร.ทำลายใต้น้ำจู่โจม วันนี้ครูชุมพลเป็นครูปกครอง เป็นครูที่พูดเก่ง ๆ ตลก ๆ ทุกคนรัก และพอดีเป็นวันเกิดด้วย แต่ครูบอกว่า “เป็นวันที่แม่ให้กำเนิด” ครูได้ชื้อน้ำอัดลมขนาดลิตร และเค้กมาให้กินทุกคนทั้งนร.อนุรักษ์และนร.มนุษย์กบ บรรยากาศการกินแบบสบาย ๆ มีการร้องเพลง Happy Birthday ให้ด้วย มีเพลง “คำมั่นสัญญา” ของอินโดจีนก็ร้องและเพลงอื่น ๆ อีก

จากนั้นกลับมาอาบน้ำเสร็จประมาณห้าทุ่มครึ่ง แล้วช่วยติวให้กับคนที่สอบซ่อมไม่ผ่าน ต้องสอบครั้งที่ 3 วันพรุ่งนี้ถึงประมาณตีหนึ่งก็มาเขียนบันทึก แล้วเตรียมนอนฝนยังตกพรำ ๆ อยู่

 

วันที่ 13

อังคาร 1-5-44

                ตื่นตีห้าครึ่ง ไม่อยากตื่นเลย ออกมาวิ่ง วันนี้ครูประยงค์นำวิ่งขึ้นเขาของเกาะพระบริเวณที่มีธงปัก แล้ววิ่งไปรอบ ๆ เกาะถือเป็นการทัวร์เกาะพระ เสร็จแล้วกินข้าวแล้วไปอาบน้ำเข้าห้องเรียนตอนแปดโมงสิบห้า ครูสอนเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่เราหลับตลอด พอซักสิบโมงกว่า ไปช่วยพี่อนุชิต 03 ข้ามเกาะพระไปซื้อของต่าง ๆ ที่ตลาดสัตหีบ มีไปทั้งหมด 6 คน พี่อนุชิต พี่ดุ๊ก เหรัญญิก พี่เสถียร ชัย เพชร และเรา ซื้อของหลายอย่างเพื่อเตรียมงานเลี้ยงรุ่น “พะยูน06” เย็นนี้และซื้อ cooler ทำความเย็นน้ำมอบให้ นสร.กร.อีก 1 เครื่อง กลับเกาะพระอีกทีตอนบ่ายสามโมง ช่วยกันจัดเตรียมงานต่ง ๆ เลยไม่ได้เข้าเรียน

ในช่วงบ่ายซึ่งเรียนเรื่องระบบนิเวศน์ชายฝั่ง พอตอนประมาณหกโมงครึ่งก็ไปกันที่งานจัดที่สโมสรมีครูฝึกต่าง ๆ ร่วมด้วย และผบ.นสร.เป็นประมาณหกโมงครึ่งก็ไปกันที่งานจัดที่สโมสรมีครูฝึกต่าง ๆ ร่วมด้วย และผบ.นสร.เป็นประธาน

 ในงานครูได้น้ำภาพ VDO ที่ถ่ายระหว่างฝึกมาฉายให้ดู ดูไปกินไป จากนั้นเริ่มทำพิธีไหว้ครู โดยปิดไฟถือเทียน ร้องเพลง และให้ครูต่าง ๆ ผูกข้อมือให้เราน้ำดอกมะลิ ไปมอบให้ครูสากลที่จับมือเราใต้น้ำลึก 90 ฟุต เมื่อวานแล้วให้ครูสากลผูกข้อมือให้ และให้ครูอื่น ๆ ผูกให้อีก เช่น ครูชุมพล ครูสมพร ครู Happy เสร็จแล้ว ผบ.นสร.กล่าวและมอบเหรียญพระเจ้าตากสินให้ 1 เหรียญ แล้วงานเลี้ยงก็ดำเนินต่อไป โดยมีการร้องเพลงสลับกับประกาศผล Vote ต่าง ๆ ทั้งของครูและนักเรียน เช่น populor สุด มีน้ำใจสุด  อึดสุด late สุด ฯลฯ ตอนหลังก็ออกไปเต้นกัน สนุกดีจนจบประมาณห้าทุ่มกว่า กลับมาอาบน้ำนอน

ในงานตอนแรกวางแผนว่าจะมีการเล่นละครล้อเลียนครูต่าง ๆ ระหว่างการฝึก โดยน้ำมุขตลกต่าง ๆ มาแสดง พอตอนซ้อมไม่ work จึงงดไป ก่อนจบงานก็จับมือกันเป็นวงกลม แล้วร้องเพลง “คำสัญญา” ก่อนจากกัน ขอสัญญา… ทั้งวันมีฝนตกตลอด ตกบ้างหยุดบ้าง โชคดีตอนจัดงานเลี้ยงฝนไม่ตก                                        

24:30 .

 

วันที่ 14

พุธ 2-5-44

                เช้านี้ตื่นตีห้าเร็วกว่าปกติ เพราะต้องข้ามเรือจากเกาะพระไปวิ่งขึ้นเขาไหว้เสด็จเตี่ย เมื่อคืนฝนตกตลอดและตกหนักด้วย ได้ยินเสียงฟ้าผ่าหลายครั้ง คิดว่าช่วงเช้าคงไม่ต้องวิ่ง แต่ตอนออกไปจัดแถวและวิ่งไปที่ท่าเรือ ฝนตกไม่หนักแค่พรำ ๆ เล็กน้อยเกือบไม่ตกจึงวิ่งได้ ครูฝึกรออยู่ที่ฝั่งอยู่แล้ว แบ่งนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกวิ่งจากที่ท่าเรือเลยระยะทาง 45 กิโล กลุ่มสองขึ้นรถไปหน่อย วิ่งระยะทาง 3 กิโล และกลุ่มสาม กลุ่มสาว ๆ วิ่งระยะ 1.5 กิโล เราเลือกกลุ่มสองมีวิ่งกันประมาณ 10 คน อากาศกำลังเย็นสบายและฝนไม่ตก ค่อย ๆ วิ่งขึ้นไป มีเดินบ้างบางจังหวะ

ในที่สุดก็วิ่งถึงศาลเสด็จเตี่ย รู้สึกว่าระยะทางไม่ไกลมากนัก ไม่ค่อยเหนื่อยเหมือนอย่างที่คิด เมื่อไปถึงกันทุกคนแล้วก็ตั้งแถวร้องเพลงและกราบลาเสด็จเตี่ย จากนั้นวิ่งลงเขาโดยจัดเป็นแถวเรียง 4 ถือเป็นการวิ่งร่วมกันครั้งสุดท้าย รู้สึกไม่เหนื่อยเลยเพราะลงเขา วิ่งไปก็ร้องเพลงกันไป สนุกดี วิ่งเลยไปจนถึงหาดเตยงาม บริเวณอนุสาวรีย์นาวิกโยธิน ตั้งแถวไว้อาลัยและถ่ายรูปร่วมกัน ขึ้นรถกลับท่าเรือข้ามไปเกาะพระ กินข้าว จัดของ ประมาณเก้าโมงไปตั้งแถวกันหน้าเสาธงเพื่อซ้อมพิธิรับประกาศนียบัตร

พอตอนสิบโมงท่านประธานพิธี รองผบ.กร. (กองเรือยุทธการ) มาถึงและ พล..อ ชาญ ตัวแทนสถาบันวิจัยฯ มอบประกาศนียบัตร ส่วนของนสร.ได้ประกาศนียบัตร ส่วนของสถาบันฯ ได้ประกาศนียบัตรและบัตรดำน้ำของสถาบัน มีหนังสือคู่มือแนวปะการังหมู่เกาะสุรินทร์และสิมิลันให้ด้วย

นอกจากนี้มอบโล่ให้กับผู้ทำคะแนนสูงสุดและรอง ได้แก่ พี่ล้อ (สูงสุด) และพี่อนุชิต พิธีจบแล้ว ครูฝึกก็เรียงแถวมาจับมือกับนักเรียนทุกคน และนักเรียนก็เข้าแถวจากต้นแถวเรียงกันไปจับมือกันทุกคนจนถึงคนสุดท้าย  จากนั้นก็เข้าห้องอาหารเพื่อจดบันทึกการดำน้ำลงสมุดบันทึกการดำน้ำและให้ครูฝึกที่เป็น Dive Supervisor เซ็นกำกับในการลงดำน้ำแต่ละ Dive

ประมาณเที่ยงก็กลับห้องไปเก็บของออกมาและกินข้าวเที่ยงเป็นมื้อสุดท้าย ก่อนกลับได้เข้าไปดูพิพิธภัณฑ์ของ นสร.ภายในอาคารเรียนฝึกอบรม แล้วข้ามจากเกาะพระเพื่อขึ้นรถกลับ ตอนกำลังขนกระเป๋าขึ้นเรือ พอดีมีฝนตกลงมาหนักมาก เปียกกันทุกคน พอถึงฝั่งปรากฏว่าฝนค่อยเบาลง พวกเราเลยต้องเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อนและค่อยกลับกรุงเทพตอนบ่ายสองครึ่ง

บางคนที่เป็นทหารทำงานที่สัตหีบก็ไม่ได้นั่งรถมากับเรา ถึงกรุงเทพประมาณหกโมง ฝนตกหนักอีกครั้ง พวกเราแยกย้ายกันกลับบ้าน เราขึ้นรถแท็กซี่กลับกับพี่ติ๊ก พรุ่งนี้นัดกันตอน 11 โมงที่ Big C เพื่อไปเปิดบัญชีของรุ่นพะยูน ๐๖ สำหรับทำหนังสือรุ่นและกิจกรรมอื่น ๆ เป็นอันว่าจบการอบรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์อย่างดี และสมชื่อคือเปียกจนวันสุดท้าย พอถึงห้องก็เอาของออกจากกระเป๋า แล้วนอนพัก เผลอหลับไปตื่นอีกทีตีสองกว่า ลุกขึ้นอาบน้ำดูฟุตบอลแล้วเขียนบันทึก                                                          

04:00 .