หน้าแรก | กระดานข่าว | บ้านปะการัง | ห้องภาพ | ทำเนียบรุ่น | ห้องสนทนา | งานอนุรักษ์ฯ | ปฏิทิน | FAQ |

ฉลาวาฬยักษ์ถูกจับมาเป็นอาหาร
Wednesday, February 9, 2005, 01:29 PM - ต่างประเทศ


เครนกำลังยกฉลามที่จับได้
BINTULU - ประชาชนใน บินทูลู (มาเลเซีย) ต่างดีใจกับอาหารอันโอชะ เช่น หูฉลาม และเนื้อฉลาม ที่จะได้จากฉลามวาฬยักษ์ ที่จับได้ในทะเลใกล้ฝั่งบริเวณ บินทูลู เมื่อวันที่ 8 กพ. 48 ที่ผ่านมา

ฉลามที่คาดว่าจะหนักถึง 2 ตัน ตัวนี้ ถูกชาวประมงผู้หนึ่งจับได้ และต้องใช้เวลาถึง 6 ชม. ในการนำมันกลับมายังท่าเรือบินทูลู

เดือนที่แล้ว ฉลาม ตัวขนาดหนัก 4 ตัน ก็ถูกจับได้ในบริเวณ บินทูลู แห่งนี้ ชาวประมงถือว่าฉลามทั้ง 2 ตัวได้มอบลาภก้อนโตให้แก่พวกเขา โดยเป็นลาภที่ได้จากการจำหน่ายเนื้อ และหูฉลามให้แก่ผู้ที่สนใจซื้อหาไปรับประทาน


แปลมาจาก http://www.brunei-online.com


สัตว์ประหลาดจากทะเลลึก
Wednesday, February 9, 2005, 11:25 AM - ต่างประเทศ


ปลา oarfish ขนาดลำตัวยาวมาก ต้องอุ้มโดยชาย 3 คน (ภาพโดย Axel Strauss)


ประเทศออสเตรเลีย - พบซากปลา oarfish เกยชายหาดของเมือง เพิทธ์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2548

ปลา oarfish นี้ มีรูปร่างคล้ายงู และมีความยาวถึง 6 เมตร ซึ่งช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมามีปลาชนิดนี้อย่างน้อย 6 ตัวลอยขึ้นมาเกยตื้นบนชายฝั่งตะวันตกของประเทศออสเตรเลีย

ปลา oarfish เป็นปลาที่อาศัยในมหาสมุทรที่มีความลึกมาก ฉะนั้นพวกมันจะขึ้นมายังระดับน้ำตื้น ก็ต่อเมื่อมีอาการป่วย หรือกำลังจะตายเท่านั้น ซึ่งน้อยมากที่จะพบว่ามันยังคงมีชีวิตอยู่

พวกมันจะอาศัยในมหาสมุทรเขตอบอุ่น กินแพลงตอนเป็นอาหาร และไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ เป็นปลาที่มีกระดูกลำตัวที่ยาวที่สุด ซึ่งอาจจะยาวถึง 9 เมตรทีเดียว

ด้วยลักษณะเช่นนี้ มันเป็นไปได้ว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้จะเป็น "งูทะเลปีศาจ" ที่พบเห็นโดยชาวประมงในสมัยโบราณ

ปีที่แล้วมีผู้สุภาพสตรีท่านหนึ่งใน ได้จับปลา oarfish ที่มีน้ำหนักตัว 63.5 กิโลกรัม และมีลำตัวยาวถึง 3.5 เมตร ได้ที่แถบชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ ในขณะที่เขากำลังตกปลาค๊อด ด้วยเหยื่อปลาหมึกปลอม

นักวิทยาศาสตร์รู้สึกเศร้าใจกับสุภาพสตรีท่านนี้มาก หลังจากที่ทราบว่าปลา oarfish ตัวดังกล่าวได้ถูกหั่นเป็นชิ้นและน้ำไปแช่แข็งหลังจากจับขึ้นมาได้

เพราะว่าปลาชนิดนี้ไม่เหมาะสำหรับนำมาเป็นอาหาร

สำหรับปลาที่ขึ้นมาเกยตื้นนี้ ตามข่าวแจ้งว่าในขณะที่พบนั้นสภาพปลามีเริ่มสภาพที่เน่าเปื่อยแล้ว

แปลมาจาก : http://www.smh.com.au


อาจจะสายเกินไปสำหรับเต่าทะเล
Monday, February 7, 2005, 02:24 PM - ต่างประเทศ


นักดำน้ำกำลังดูลูกเต่าว่ายน้ำในทะเล
เต่าทะเลมากกว่า 165,000 ตัวในแต่ละปี กำลังประสบปัญหาด้านการดูแล และการถูกฆ่า ซึ่งจำนวนหนึ่งในประชากรเต่าทะเลเหล่านี้กำลังใกล้เข้าสู่จำนวนของการสูญพันธ์


ในอดีต นานมาแล้ว เต่าเขียว (green turtles) ได้เคยว่ายน้ำไปยังฝั่งทะเลของเกาะบาหลี อันเป็นที่ที่พวกมันไปวางไข่ ก่อนที่กลับสู่ทะเลอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้คนจึงเข้ามาล่าเต่าทะเลกันที่นี่กันอย่างมากมาย จนไม่มีเต่าทะเลตัวใดกล้ากลับมาอีกเลย และในปัจจุบันเต่าได้กลับมาอีกครั้ง แต่ไม่ได้ว่ายน้ำมา พวกมันถูกบรรทุกขึ้นเรือเข้ามาทางตอนใต้ของชายฝั่งบาหลี บางครั้งมากกว่า 700 ตัวต่อวัน ที่จะมาในรูปแบบคล้ายผู้ลี้ภัย โดยพวกเต่าทะเลเหล่านี้จะถูกขังในกรงไม้ไผ่และเลี้ยงไว้ในน้ำทะล ซึ่งเมื่อเวลาน้ำขึ้น-ลง พวกเต่าทะเลจะต้องรอวันตายอย่างเจ็บปวด และทรมาน กับสิ่งสกปรก และคราบน้ำมันที่ลอยอยู่ชายฝั่งทะเลนั้น

เต่าทะเลที่ถูกจับมานี้ จะถูกเจาะรูเข้าที่ครีบหน้าเพื่อร้อยเชือกให้ติดกัน แต่ในบางครั้งพวกมันก็อาจจะถูกกองทับถมไปมาสูงหลายชั้นคล้ายกับกองผักในเข่ง แม้ว่าจะยังไม่ตาย แต่มันก็จะต้องทรมาณ และตายลงอย่างช้า ๆ นอกจากนี้เต่าที่ถูกจับไว้บนเรืออาจจะถูกนำมาทำเป็นอาหารด้วย ด้วยการหงายตัวเต่า และเปิดส่วนท้องขึ้น เพื่อผ่าเอากระดองออก ก่อนที่จะเอาเนื้อมันไปต้มกิน

มันนานมาแล้วที่การฆ่าเต่าถือเป็นส่วนประกอบของพิธีการในวิถึชีวิตของชาวบาหลี เช่นงานแต่ง งานศพ และงานรับขวัญเด็กทารก ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นยินยอมให้มีการฆ่าเต่าได้ปีละ 4,000 ตัว แต่ในงานวิจัยที่มีอยู่รายงานว่าแค่ 1,000 ตัวก็พอเพียงต่อพิธีการต่าง ๆ ในท้องถิ่นแล้ว

นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าในบาหลี ปีหนึ่ง มีเต่ามากกว่า 15,000 ตัว ถูกฆ่าเพื่อนำมาเป็นอาหาร ซึ่งนับว่าเป็นระบบจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพในด้าน ปฏิบัติ และทางกฏหมายท้องถื่น แต่แน่นอนว่าความเชื่อ และความนิยม จะยังคงมีอยู่ เพราะในอดึตมีการนำเอาเนื้อ และไข่เต่ามาบริโภค รวมถึงการนำกระดองมาทำเป็นเครื่องประดับ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อหากัน



ครีบหน้าของเต่าที่ถูกเชือกร้อยติดกัน

กระดองที่ถูกผ่าเอาเนื้อออกไปแล้ว

เนื้อเต่าในหม้อต้ม


ก่อนหน้านี้ในปี 1989 ในอเมริกาได้ออกกฏหมายมาบังคับ ว่ากุ้งที่จะนำมาขายให้กับประเทศสหรัฐ จะต้องมาจากอวนจับกุ้งที่ได้รับการปรับปรุงให้สามารถ ปล่อยเต่าทะเล ออกไปได้ในกรณีที่มันติดเข้ามา เพื่อปกป้องเต่าทะเล แม้ว่าแนวกฏหมายนี้จะไม่ได้รับการยอมรับในบางประเทศ แต่ก็ยังโชคดีที่ยังมีการบังคับใช้งานอยู่

เราเชื่อกันว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายในโลก คือผู้ดำรงชีพมานานกว่า 200 ล้านปี และมนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุด แต่มนุษย์ไม่ได้ดูแลสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตร่วมกันมาเลย วันนี้ยังไม่สายที่จะร่วมกันช่วยดูแลสิ่งมีชีวิตรอบตัวเรา หากเรายังคงปล่อยให้มีการบริโภคไข่เต่า การจับกุ้งด้วยอวนแบบเดิม และมีโรงฆ่าเต่าแบบในบาหลี วันข้างหน้าทะเลก็คงจะต้องอ้างว้างจากสิ่งมีชีวิตที่มีสายพันธุ์เก่าแก่เช่นเต่าทะเล ก็เป็นได้

ด้วยความรู้สึกที่จะปกป้องโลกใบนี้ เราไม่สามารถตัดความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้รอดชีวิตบนโลก และเผ่าพันธุ์ ถ้าเราเลือกที่จะนั่งดูผลกระทบจากการทำลายล้างที่จะบังเกิดกับชีวิตมนุษย์เรา สู้เลือกที่จะร่วมกันสร้างการปกป้อง และร่วมกันรับผิดชอบอย่างจริงจัง ในอันที่จะช่วยรักษาสิ่งมีชิวิตอีกหลาย ๆ ชีวิต เพื่อโลกของเรา หรือไม่เช่นนั้น ก็อาจจะต้องถึงเวลาที่กล่าวคำว่า "สายเกินไป"


แปลมาจาก ukdiving.co.uk : บทความต้นฉบับ
รูปภาพโดย Michael Aw



ย้อนกลับ